จากหมอบุณย์ ยาวหน่อย แต่ดีมากอ่านเถอะครับบันทึกน่ารู้(good)
(Peace Girl)กินมะเฟือง ให้ตัดสันขอบทิ้ง เพราะ มีสารทำลายไต เกาะอยู่
หมายเหตุ : ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า กินมาก/กินบ่อย
(Smile)ถ้าดื่มนม 1 แก้ว ให้ดื่มน้ำตาม 1 แก้ว เนื่องจากนมเป็นโปรตีน ที่ย่อยยาก
(earth)วิตามินซี ในผลมะเฟือง และมะขามป้อม มีคุณภาพสูง แม้ทิ้งไว้ 2-3 วัน ก็ยังไม่เสื่อม แต่วิตามินซี ในผลไม้อื่น จะเสื่อมไปอย่างรวดเร็วเมื่อปล่อยทิ้งไว้
(oh no)ถั่วฝักยาว ที่เมล็ดวางเรียงกันห่าง ๆ นั่นแสดงว่า ชาวสวนฉีดสารเคมี อย่าซื้อ นอกจากนั้น ให้เลี่ยงกินผักอายุสั้น ที่ใช้เวลาปลูก ในระยะสั้น เช่น ผักบุ้งจีน ต้นหอมผักชี ฉีดยากระหน่ำครับ
(oh no)กินยาแก้ไมเกรน เป็นประจำต่อเนื่องนาน ๆ อาจทำให้มดลูกโต ตับอักเสบในชาย ผู้หญิงเกิดช็อกโกแลตซีสต์ ที่ผนังมดลูก อาจพัฒนาต่อเป็นมะเร็ง
(Annoying GF)ผู้หญิง ที่มีประจำเดือน ทั้งหลาย ควรรู้เอาไว้ด้วยว่า ที่เต้านม ของท่าน นั้นมีท่อนมและต่อมเหงื่อ ทั้งหมดนี้ไหลไปในท่ออันเดียวกัน ขณะกำลังมีรอบเดือน แต่ละเดือน เต้านมของท่านจะ "คัด" หรือ "แน่นตึง/บีบรัด ถือเป็นกระบวนการ ขับของเสีย ออกจากร่างกาย ของผู้หญิง แนะนำ ให้งดออกกำลังกายช่วงนี้ เพื่อไม่ให้เหงื่อ และน้ำนม ผสมจับตัวเป็นก้อน เพราะอาจก่อให้เกิด เป็นก้อนมะเร็งเต้านมได้
(nice) ควรกินขมิ้นชัน ในรูปแบบอาหาร ที่เป็นของร้อน คนสมัยก่อน ใช้ขมิ้นชันสมานลำไส้ และกระเพาะอาหาร เขานำขมิ้นชัน มาตากแดด เมื่อแห้ง จึงนำมาบด เป็นผงนำไปใช้งาน แต่ปัจจุบัน ใช้วิธีอบ ด้วยเตาอบ/ตู้อบ ที่มีอุณหภูมิสูง ทำให้ ยางในเปลือกขมิ้นชัน กลายสภาพเป็นยางเหนียว สุดท้ายแห้งและถูกบดไปในที่สุด เมื่อนำมากิน จะเป็นอันตราย ต่อลำไส้เพราะ ยางเหนียวที่ว่านี้ ไปเกาะที่ผนังลำไส้ นานไป ทำให้ลำไส้อุดตัน และหากกินนานต่อเนื่องเป็นปี พบว่า มีอาการตัวเหลืองถึงขั้นตับวายเลยทีเดียว
(good)ผู้ที่กินยาลดความอ้วน แม้ผอมลงก็จริง แต่ผลทางลบคือ มวลกระดูกลดลงอย่างมาก หรือผู้ที่กินยาลดคลอเลสเตอรอล แต่สิ่งที่แถมมาคือ
กระดูกบางลง อีกทั้งไขมันไปพอกที่ตับเต็มไปหมด หรือผู้ที่กินยาแก้แพ้อากาศ/ยาภูมิแพ้ เป็นประจำ นานต่อเนื่อง นานหลายปี แต่ได้สิ่งที่แถมมาคือ ก้านสมองแห้ง ส่งผลให้ความจำเสื่อม
(oh no)ใช้ยาหยอดตา บางชนิดบางยี่ห้อ อาจทำให้ "นอนไหลตาย" ถ้าผู้ใช้หยอดตา over dose
ขอย้ำ และให้ขีดเส้นใต้ไว้ ณ ที่นี้ด้วยว่า ยาหยอดตา ใดที่ฉลากยา หรือที่แพทย์สั่งให้หยอดยาตาม dose ก็ให้ทำตามนั้น ท่านอย่าทำมากกว่าที่กำหนด แต่ถ้าเขียนไว้ว่า
"หยอดตาได้บ่อย ๆ " อันนี้ทำได้ แต่ ถ้าไม่เขียนว่าหยอดได้บ่อย ๆ คุณอย่าทำบ่อย ๆ ด้วยอยากจะให้หายเจ็บตา ในยาหยอดตาบางชนิดบางยี่ห้อ มีตัวยาที่เป็นสารเคมี ที่มีผลร้ายแรง ต่อระบบการทำงานของหัวใจ ท่านเชื่อหรือไม่ว่า ไม่มีแพทย์คนใดกล้าพูดเรื่องนี้ มีเพียงหมอบุณย์ คนเดียวที่กล้าพูด แพทย์ส่วนใหญ่ไม่เคยอธิบาย ให้ผู้ป่วยทราบ ถึงอันตราย บอกแต่เพียงว่า "หยอดตาเช้าเย็น" แต่หากแพทย์อธิบาย ผู้ป่วยสักนิด ผู้ป่วยก็จะ ระแวดระวัง ไม่หยอดตามั่ว..
(bad)ทุกวันที่ตื่นนอนตอนเช้า แต่กลับใช้ชีวิต ให้ตายเร็ว ด้วยการชงกาแฟ ดื่มแทนอาหารเช้าทุกวัน การดื่มกาแฟตอนเช้าไม่ดี เพราะจะทำให้ ก้านสมองแห้ง ส่งผลให้ การสื่อสารของกระแสประสาท สั่งงานผิดปกติ หัวใจทำงานหนัก ในกระเพาะอาหาร มีความเป็นกรดสูงยิ่งขึ้น นานวัน อาจทำให้ กระเพาะอาหารทะลุได้
แต่ การดื่มกาแฟหลังอาหารเช้า/เที่ยง พอมีประโยชน์ ถือว่า เป็นการดื่มกาแฟ ถูกที่ถูกเวลา การดื่มกาแฟหลังอาหาร เป็นการช่วยย่อยอาหารได้ทางหนึ่ง ฤทธิ์ของคาเฟอีนในกาแฟ ไปกระตุ้นหัวใจ ให้สูบฉีดโลหิตได้เพิ่มขึ้น ช่วยทำให้ โลหิตไปเลี้ยง กระเพาะอาหารได้มากขึ้น จึงช่วยใ ห้กระบวนการย่อยอาหารเป็นไปด้วยดียิ่งขึ้น
(Preist)การกินปาท่องโก๋ มีความเสี่ยง เป็นมะเร็งได้ เพราะทอดในน้ำมันร้อน เกิดสารก่อตัวของเมลามีน สะสมในร่างกาย มากเข้า ทำให้เป็นนิ่วในไต ไตวายเฉียบพลัน อีกทั้งทำลายระบบสืบพันธุ์ ผิวพรรณหยาบด่าง
(Chocolate Spread)เชื่อหรือไม่ว่า นมข้นหวาน มีขายที่เมืองไทยชาติเดียวในโลก แล้วก็แพร่กระจายไปยังประเทศข้างเคียง. ขอเรียนว่า นมข้นหวานไม่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย เลยสักนิด แถมไม่ใช่อาหารที่ทำมาจากนม ตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน แต่ส่วนประกอบหลัก คิอ น้ำมันพืช
ผสม น้ำตาลทราย นมข้นหวาน จึงอุดมไปด้วยน้ำตาลและไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหาร ที่เกือบไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายเลย อีกทั้ง เป็นต้นตอของโรคภัยอื่น ตามมาอีกมาก
(gasp!)ต้น(gasp!)กรน เริ่มจากตึงที่คอ บ่าไหล่ เกิดจากเลือดไหลไปเลี้ยงสมองไม่สะดวก นอนหมอนสูงไป นอนดูทีวี นั่งเอนๆ ไหลๆ นั่งทำงาน แต่ละวัน ต่อเนื่อง โดยไม่ผ่อนคลาย ควรลุกจากเก้าอี้ อย่างน้อยทุก 2 ช.ม.
ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน จงรักษาแกนกลางร่างกายให้อยู่ในแนวเดียวกัน
(please!)กล(please!)ทำให้กระดูกป่วย ตัวกระดูกป่วยเองไม่ได้ เมื่อกระดูกป่วย ก็จะโยงไปถึงระบบประสาท เพราะเส้นประสาท ถูกกระดูกและหมอนรองกระดูก กระทบกระทั่ง สุดท้ายทำให้ปวดโน่น ปวดนี่
(Moon ok)สรุป : อย่านอนหมอนสูง อย่านั่ง/นอนเก้าอี้โยก เก้าอี้ผ้าใบ เปลญวน และอย่านอนดูทีวี การทำเช่นนี้ถือว่าท่าน "หักคอตัวเอง" เมื่อก้นย้อยคอก็เลยหักกลับ เป็นเหตุให้กระดูก/หมอนรองกระดูกไปกระทบกระทั่งเส้นประสาท ทำให้ปวดเอว ไหล่ บ่า คอฯ
(Moon mask)นอนก่อโรค: ใช้หมอนสูงหนุนศีรษะถือว่า "นอนหักคอตัวเอง" หมอนสุขภาพไม่มีในโลก อย่าหลงเชื่อซื้อมาใช้ เหตุเมื่อเรานอนหลับ ร่างกายเราจะพลิก ท่านอนไปทางไหนก็ได้ เราหลับเราไม่รู้ หมอนประเภทนี้จะล็อคคอไว้
ใช้ไปนานๆ จะทำให้กระดูกต้นคอเสียสมดุล หมอนที่ดี ต้องไม่นิ่มเกินไป ไม่เช่นนั้นศีรษะจะฝังตัว หรือไม่แข็งเกินไป การนอนบนที่นอนนิ่มมากไปก็ไม่ดี ก้นจะพากระดูกยุบตัว
กระดูกจะเสียสมดุล แต่ก็ไม่ใช่ว่า ทำตัวสุดโต่งโดยหันไปนอน บนกระดานแข็งแทน อันนี้ถือว่าทำตัวตึงไป
(Moon angel)ผู้ที่ชอบนอนตะแคง หากนอนไม่เป็น จะทำให้เกิดเจ็บป่วยได้ เช่น นอนตะแคงซ้าย ถ้าท่านเป็นผู้ที่เอวหนาร่างใหญ่ พบว่าเข่าด้านบนหรือเข่าด้านขวาแทงเป็นหัวลูกศรลงไป เป็นเหตุทำให้ดึงสะโพก ถ้านอนเช่นนี้นานๆ เป็นนิสัยจะส่งผลให้เจ็บที่ใต้ราวนม หายใจไม่ค่อยออกเพราะช่วงลำตัวบิด อันเนื่องจากน้ำหนัก และขนาดลำตัวที่มากนั่นเอง
(please!)การนอ(please!)ด ติดต่อกันนานๆ ทั้งคืนถือว่านอนก่อโรคเช่นกัน สังเกตไหม วันใดที่ท่านเพลียเหนื่อยมาก ท่านมักนอน ด้วยท่าเดียวท่านั้นนานๆ ไปทั้งคืน แต่ถ้าร่างกายไม่เพลียก็มักเปลี่ยนท่านอนได้บ่อยหลายท่า ท่านอนที่ดีช่วยให้ร่างกายรับอากาศเต็มที่ ตื่นมาสดชื่น
การจะหายใจ นำอากาศให้เข้าสู่ปอด เต็มทั้ง 5 พู (ปอดด้านซ้ายมี3 พู / ด้านขวามี 2 พู รวม 5 พู) ปอดพูสุดท้ายของด้านซ้าย ลึกลงไปสุด (พูที่ 3) น้อยมากที่เราหายใจ ลงไปถึงพูนี้ (ถ้าท่าน ไม่ค่อยออกกำลังกาย หรือไม่เล่นกีฬา) นี่แหละที่เขาเรียก กันว่า "หายใจไม่ทั่วปอด"
หรือ "หายใจไม่อิ่ม" เมื่อตื่นขึ่นมา ก็จะไม่สดชื่น ง่วงนอนตอนสายๆ
(shocked)ท่านใด (shocked)ุมแคปซูลนานต่อเนื่อง 3 เดือน ให้พบแพทย์ตรวจตับ ตับอาจทำงานผิดปกติหรืออักเสบ การหลั่งเอนไซม์ของตับมีปัญหา คนเราเชื่อตามกระแส เชื่อสนิทใจว่า "ดี" ไม่ว่าจะเป็นมะรุมแคปซูล มะระขี้นกแคปซูล และสารพัดสมุนไพรอัดแคปซูล ไม่มีประโยชน์สักนิดเดียวครับ ดีไม่ดีมีสารปนเปื้อน กลายเป็นว่า "กินมะรุม แถมมะเร็ง"
ขอเรียนให้ทราบว่า สมุนไพรเดี่ยว ไม่มีผลในการรักษา อีกทั้ง มะรุมไม่เคยปรากฏ ในตำราแพทย์แผนไทยมาก่อน หรืออาจกล่าวได้ว่า มะรุมเพียว ๆ ไม่มีสรรพคุณทางยา สมุนไพรเดี่ยวรักษาโรคไม่ได้ แต่ถ้ากินเพื่อป้องกัน /รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้นั้นจำต้องผ่านกระบวนการ ปรุงตามหลัก เภสัชกรรมจากผู้รู้เสียก่อน ไม่ใช่นำมาบดอัดใส่แคปซูลนำออกขายแล้วกินกันไป เราควรกินอาหารเป็นยา เช่น แกงส้มปลาช่อนมะรุม แต่ไม่ใช่กินสมุนไพรเดี่ยวแคปซูล ดังที่กล่าว ซึ่งไม่ต่างจากกินขี้เลื่อยครับ
บางส่วนจากหนังสือ ใช้ร่างกายให้ตายเร็วถ้าอยากตายเร็วทำอย่างนี้สิ
โดย แพทย์แผนไทยบุณยพร ยี่มี (หมอบุณย์)
รางวัลระดับโลก : the best Inventor
จากองค์กรทรัพย์สินทางปัญญา ทบวงชำนาญการพิเศษ องค์การสหประชาชาติ และจากรัสเซียปี 2552
รางวัล Gold Prizeจากเกาหลีใต้ ปี 2552
รางวัล Gold Medalจากสวิสเซอร์แลนด์ และจากคูเวตปี 2554. K.
Post a Comment
[video]youtubeorvimeovideolink[/video]
[img]yourimagelink[/img]